ในยุคก่อกำเนิดของสิ่งมีชีวิตนั้นกับสมัยปัจจุบันสิ่งมีชีวิตที่เราเห็นมีวิวัฒนาการจากสิ่งแรกเกิดมาหลายล้านปีแล้วดังนั้น กว่าจะเป็นสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมีวิวัฒนาการมาหลายขั้นตอนในการเปลี่ยนแปลง จึงทำให้สิ่งมีชีวิตมีความหลากหลายมากกว่าเดิมในทางตรงกันข้ามหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงสิ่งมีชีวิตนั้นก็จะอาศัยได้อย่างยากลำบากและอาจจะสูญพันธุ์ไปในที่สุด สิ่งมีชีวิตก็จะมีสิ่งที่เกิดขึ้นมาใหม่หรือมีการกลายพันธุ์ จากการขุดพบซากกระดูกและส่วนต่างๆของสิ่งมีชีวิตสามารถเปลี่ยนแปลงได้ทั้งพืชและสัตว์และบางชนิดมีบรรพบุรุษจากสิ่งเดียวกัน แต่มีวิวัฒนาการที่แตกต่างกันไปทำให้มีสิ่งมีชีวิตที่หลากหลายขึ้นจึงได้มีการจำแนกเป็นหวดหมู่ตามหลักทางชีววิทยา วิวัฒนาการไม่ได้เปลี่ยนแปลงทางด้านกายภาพเท่านั้นแต่ยังเปลี่ยนแปลงความเป็นอยู่ ซึ่งมีแนวคิดทางด้านวิทยาศาสตร์ที่ได้มีแนวคิดวิวัฒนาการไว้
แนวคิดวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
มีแนวคิดต่างๆ ที่หลักแนวความคิดในอดีตจาการคิดค้นวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต อย่างเช่นเกิดจากปลาที่อยู่ในน้ำ เกิดจากธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ เป็นต้น แต่ยังมีแนวคิดที่ไม่มีเหตุผลสนับสนุนหรืออธิบายการเปลี่ยนแปลงนั้นได้ แต่มีแนวคิดต่างเชื่อในแต่ละเหตุผลที่แตกต่างกันไปอย่างเช่น
1.แนวคิดของลามาร์ค ลามาร์คเป็นผู้เสนอแนวคิดในยุคแรกซึ่งเมื่อก่อนต่างมีความคิดว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นจากวิวัฒนาการได้ ลามาร์คเป็นนักวิทยาศาสตร์ได้รับความเชื่ออำนาจของพระเจ้าเป็นอย่างมากเลยได้รับแนวคิดสิ่งที่เกิดขึ้นเหนือธรรมมาชาติมาด้วย แนวความคิดของเขามีอยู่ว่า สิ่งมีชีวิตมีการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมเพื่อความอยู่รอดโดยการเปลี่ยนแปลงของธรรมชาติและอำนาจที่เหนือธรรมชาติมีอยู่สองหลักการคือ
1.หลักการใช้ไม่ได้ เป็นหลักการที่บ่งบอกถึงความสำคัญของอวัยวะหากอวัยวะใดใช้เสมอและมีความจำเป็นต้องใช้จะมีขนาดใหญ่และแข็งแรง หากสิ่งใดไม่จำเป็นจะมีขนาดเล็กและจะหายไปในที่สุด
2.การถ่ายทอดลักษณะที่เกิดขึ้น หมายถึงอวัยวะใดที่ดีหรือไม่ดีจะสามารถถ่ายทอด หมายถึงว่าพ่อแม่แขนใหญ่ลูกก็จะแขนใหญ่เช่นกัน หลักงานที่ไม่ได้รับการยอมรับเพราะว่าถ้าลูกไม่ได้รับสารอาหารที่ดีหรือว่าไม่ได้ออกกำลังกายออาจจะแขนอาจจะเล็กได้เช่นกัน
แนวความคิดของลามาร์คยังบอกถึงความเปลี่ยนแปลงจะค่อยเป็นค่อยไปจากพ่อไปยังลูกหลายเรื่อยๆ ต่อมาแนวความคิดของเขาไม่ได้รับการยอมรับแต่ถือได้เป็นแนวทางที่ดีในการคิดค้นของวิวัฒนาการมากขึ้นและมีผู้ศึกษาอย่างจึงจัง
2.การคัดเลือกโดยธรรมชาติ เป็นความคิดที่มีความสำคัญและมีบทบาทเป็นอย่างมากมีความต่อมาจนถึงปัจจุบัน คือการคัดเลือกโดยธรรมชาติของ ชาร์ลส์ ดาร์วิน เป็นนักธรรมชาติวิทยาและเป็นนักพฤติกรรมนิยมจากการเดินทางไปที่ต่างๆทั่วโลกเป็นระยะเวลา 5 ปี เขาได้พบว่าสิ่งมีชีวิตที่เกิดขึ้นในปัจจุบันมีวิวัฒนาการเกิดขึ้น ซึงเมื่อก่อนเขาไม่ได้เชื่อเรื่องวิวัฒนาการ ซึ่งได้เสนอแนวความคิดคือ
1.สิ่งมีชีวิตมีลูกหลายได้จำนวนมาก แต่ไม่สามารถที่จะอยู่รอดได้ทุกตัว
2.ลูกหลานที่มากมีการเอาตัวรอดด้วยการต่อสู่แย้งอาหารเพื่อให้ตัวเองสามารถมีชีวิตและสืบพันธุ์ต่อไปได้
3.สิ่งมีชีวิตมีการลักษณะการเอาตัวรอดเป็นแบบแปรผัน และสามารถถ่ายทอดไปยังลูกหลานทำให้มีบางตัวสามารถที่จะปรับสภาพได้ดี
4.ตัวที่อยู่รอดจะมีการสืบพันธุ์ในขณะที่ตัวไหนอ่อนแอก็มีจำนวนน้อยและก็หายไป
5.เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งมีชีวิตจะปรับตัวและจะปรับตัวให้ดีขึ้นในขณะที่ตัวไหนไม่สามารถปรับตัวได้หรือปรับตัวไม่เหมาะสมก็จะหายไป
ตัวอย่าง ยีราฟคอที่ยาวนั้นจะมีทั้งชนิดแบบคอสั้นและแบบคอยาวจากแนวคิดดังกล่าวยีราฟคอยาวจะถูกคัดให้มีชีวิตอยู่รอดและสืบพันธุ์ต่อมา ส่วนยีราฟคอสั่นเนื่องจากหาอาหารกินไม่ได้จึงไม่สามารถสืบพันธุ์ต่อได้และหายไปในที่สุด
3.แนวความคิดสังเคราะห์ของวิวัฒนาการ แนวความคิดนี้ได้ทำการปรับปรุงสังเคราะห์จาก ชาร์ลส์ ดาร์วินให้ดีขั้นนั้นเอง เพราะว่าเดิมนั้นแนวความคิดดารคัดเลือกโดยธรรมชาติยังไม่สามารถอธิบายรายละเอียดในเรื่องการเปลี่ยนแปลงแบบผกผัน และยังไม่สามารถบอกได้ว่าสิ่งมีชีวิตเกิดขึ้นได้อย่างไร ใช้แนวความคิดเป็นแนวทางซึ่งนักวิทยาศาสตร์ต่างให้ความคิดเป็นของตัวเอง
วิวัฒนาการของพืช
พืชมีการเปลี่ยนแปลงมาโดยเริ่มแรกมีการอยู่อาศัยในน้ำทั่งหมดเสียก่อน โดยเป็นสาหร่ายสีเขียวแกรมน้ำเงิน และสาหร่ายสีเขียว โดยเริ่มจากพืชที่ไม่มีท่อลำเลียงไม่มีรากก่อน พืชไม่มีรากก่อนแล้วจะมีรากขึ้นมาเพื่อดูอาหารได้รวดเร็วจึงมีระบบท่อลำเลียงอาหารที่ไปเลี้ยงลำต้นได้รวกเร็วและทั่วทั้งต้นได้มีการเคลือบชั้นนอกของเซลล์เพื่อป้องกันการระเหยของน้ำ ช่วงก่อนไม่มีรากนั้นจะมีการเกิดได้ในบกมีความสูงประมาณ 4 นิ้วมีการใช้สปอร์ในการขยายพันธุ์ จากนั้นสปอร์มีการแยกออกเป็นเพศเมียและเพศผู้และต้องอาศัยพืชในการสืบพันธุ์ทั้งสองเพศเป็นที่มาของพืชมีดอกนั้นเอง ในช่วงก่อน 60 ล้านปีมาพืชมีดอกมีจำนวนมาก รวมถึงพืชชั้นต่ำอื่นๆ บางชนิดเมื่อเกิดอุณหภูมิของโลกเปลี่ยนแปลงไปก็จะทำให้พืชเหล่านั้นหายสาบสูญไปเป็นจำนวนมาก คงเหลือไว้อย่างเช่น ตีนตุ๊กแก หวาย เฟริ์น
วิวัฒนาการของสัตว์
เริ่มแรกจากสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังจากสัตว์เซลล์เดียว เมื่อ 600 ล้านปีก่อนสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังมีจำนวนมาก อย่างเช่นพวกหอย หนอน เป็นต้น เริ่มแรกนั้นอาศัยอยู่ในน้ำเป็นพวกปลาโดยมีอายุกว่า 500 ล้านปีมาแล้วปลาจะมีมีกระดูดสันหลังมีลำตัวอ่อนนุ่มมีปากคล้ายปลา หลังมาจึงมีเกล็ดมีขากรรไกลที่ปากแล้วจึงเป็นปลาในที่สุด ต่อมาเมื่อ 370 ล้านมี ปลาเริ่มมีวิวัฒนาการโดยมีขาที่งอกออกมากลายเป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ แต่ก่อนมีขนาดใหญ่เคลื่อนไหวได้ช้าจนพัฒนามาให้เคลื่อนไหวได้ดีขึ้นและยังสามารถที่จะรับรสและกลิ่นได้ด้วยมีน้ำลายเพื่อทำให้อาหารอ่อนนุ่ม การที่เป็นสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำทำให้แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วโดยไม่ต้องยึดอยู่กับน้ำอีกต่อไป เมื่อ 37 ล้านปีจึงกลายมาเป็นสัตว์เลื้อยคลานโดยมีลำตัวเหมือนกันสัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำและสามารถอาศัยไปในที่ต่างๆได้ อย่างที่เราได้พบพวกเต๋า แล้วมาเป็นงู กิ่งกาในปัจจุบัน วิวัฒนาการต่อมาของสัตว์เลื้อยคลานก็คือนก เนื่องจากสัตว์พยายามหาแมลงจึงทำให้ปากมีความเหมาะสมกับการหาอาหารได้ง่าน มีนิ้วที่ยาวใช้ในการเกาะกิ่งไม้ มีขนที่ช่วยให้ความอบอุ่นกับร่างกาย
แหล่งที่มา http://www.krabork.com/2015/08/22/วิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต/